Last updated: 18 ก.พ. 2563 | 1187 จำนวนผู้เข้าชม |
ชาวบ้านในพื้นที่บ้านแม่มอก ตำบลแม่มอก อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ซึ่งมีการปลูกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้ามาได้ 3-5 ปี ขณะนี้เริ่มมีผลผลิตออกติดต่อกันเป็นปีที่2 กำลังประสบปัญหาไม่มีที่จำหน่ายผลผลิตเหมือนปีแรก ทำให้เกษตรกรที่ปลูกกว่า 20 รายๆละ100-200 ต้น ต้องปล่อยให้ผลสุก ที่เรียกว่าเชอรี่ สุกคาต้น และแห้งคาต้นเป็นจำนวนมาก เพราะไม่มีผู้รับซื้อ
ชมคลิป https://www.youtube.com/watch?v=7iR4jUp1bu4&feature=youtu.be
ทางด้านสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง จึงได้ร่วมกับภาคเอกชนประกอบด้วย นายสิงห์คำ อายะซู ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต ศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมเซรามิก นายกิติศักดิ์ สินวนาทรัพย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง นายสัญญลักษณ์ เลิศปัญญานุช นายกสมาคมผู้ประกอบการไม้จังหวัดลำปาง นายต่อศักดิ์ ประคำทอง นายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง และนายชัยณรงค์ จุมภู ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมเครื่องปั้นดินเผาจังหวัดลำปาง และเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง ได้เข้าตรวจเยี่ยมสวนกาแฟอินทรีย์ของชาวบ้าน เพื่อดูผลผลิตและร่วมหารือถึงปัญหา และ วางแนวทางช่วยเหลือ
ทั้งนี้เกษตรกรได้ให้ข้อมูลว่าเมื่อประมาณ3ปีที่ผ่านมา ได้มีเอกชนรายหนึ่งนำกล้ากาแฟสายพันธุ์โรบัสต้ามาขายให้ชาวบ้านพร้อมทำสัญญารับซื้อ แต่เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปีแรกที่ผลผลิตกาแฟออก ได้นำไปขายให้กับเอกชนรายดังกล่าว แต่ถูกปฎิเสธโดยอ้างว่ากาแฟไม่มีคุณภาพ ทำให้เกษตรกรที่ปลุกไมู่้นำไขายที่ไหนเพราะไม่รู้จักตลาด บางคนพอรู้จักก็นำไปขายบ้าง ที่ไม่รู้จักตลาดก็มารวมกันตากแห้งขายก็มีคนมาซื้อราคากิโลกรัมละแค่20บาท ซึ่งก็ขาดทุน หลังจากนั้นชาวบ้านก็เลยปล่อยต้นกาแฟไว้ตามมีตามเกิดเพราะไม่รู้ว่าเมื่อผลผลิตออกมาจะขายให้กับใคร ปัจจุบันที่มีเกษตรกรปลูกประมาณ20 ราย แต่ละรายจะใช้พื้นที่บ้านของตนปลูกจำนวน100-200 ต้นต่อราย มีผลผลิตประมาณกว่า1ตันต่อปี
จากการพุดคุยกับตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ได้มีการแนะนำให้รวมกันเป็นกลุ่ม โดยทางภาคเอกชนจะเข้าไปสนับสนุน โดยจะได้จัดหาเครื่องกะเทาะเปลือกให้เป็นกะลา จากนั้นจะได้ประสานผู้ประกอบการที่มีโรงคั่วเข้าไปรับซื้อผลผลิตของเกษตรกรต่อไปเพื่อแก้ปัญหาในเบื้องต้นก่อน หลังจากนั้นเพื่อเตรียมการในปีต่อๆไป จะได้มีการพูดคุยกันเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีระบบ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องผลผลิตของเกษตรกรอย่างยั่งยืน
ซึ่งล่าสุดบ่ายวันนี้( 18 ก.พ.) ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานสภาการเกตรกรจังหวัดลำปางได้นำคณะศูนย์วิจัยและพัฒนาฯร่วมกับศูนย์อุตสาหกรรมภาคเหนือ เข้าพื้นที่นำเครื่องกระเทาะกะลาเมล็ดกาแฟและผู้ประกอบการร้านกาแฟเข้าซื้อกาแฟจากชุมชนพร้อมอบรมเทคนิคทักษะการสร้างกาแฟให้มีมูลค่าเพิ่มแล้ว
นอกจากนี้แล้วในพื้นที่เกษตกรยังมีการปลูกถั่วเหลืองแปลงใหญ่ นับพันไร่ มีผลผลิตจำนวนมาก แต่ที่ผ่านมาปริมาณการปลูกต่อไร่ได้ผลผลิตต่ำ และจำหน่ายได้ราคาถูก แต่ด้วยจุดเด่นและถือเป็นจุดขายของพื้นที่ ที่ทำการเกษตรในตำบลแม่มอกแห่งนี้คือ ปลูกพืชทุกชนิดแบบอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี จึงได้มีการพูดคุยกันเพื่อให้เกษตรกรหันมาปลูกแบบเชิงคุณภาพ ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมและราคาสูงขึ้นด้วย