Last updated: 21 ก.พ. 2563 | 830 จำนวนผู้เข้าชม |
วันนี้ ที่ห้องประชุมศูนย์ราชการจังหวัดลำปาง นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เดินทาง ลงพื้นที่จังหวัดลำปาง พร้อมด้วย พร้อมนายนพดล พลเสน ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ปลัดกระทรวงฯ ผู้บริหารกระทรวงฯ เพื่อติดตามสถานการณ์และผลดำเนินการ การป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า ภาคเหนือ ปี 2563 ของ 9 จังหวัดภาคเหนือ พร้อมนำข้อห่วงใย ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีต่อพี่น้องจังหวัดภาคเหนือ ซึ่งได้รับผลกระทบ จากปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควันด้วย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้แทนจาก 9 จังหวัดภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หน่วยงานส่วนกลางระดับพื้นที่ ที่เกี่ยวข้อง กว่า 200 นาย ร่วมประชุมให้ข้อมูลและรายงานผลการดำเนินงาน
ชมคลิปโหลดคลิป https://www.youtube.com/watch?v=owFaaTysP-E&feature=youtu.be
ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้เข้มงวดดำเนินมาตรการในการรับมือสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันอย่างเต็มกำลังความสามารถ และเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานทุ่มเทสรรพกำลังและทรัพยากรเพื่อหยุดการเผาและควบคุมไม่ให้ปริมาณฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐาน นับจากนี้ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2563 โดยเฉพาะการเคร่งครัด ดำเนินการตามนโยบาย ของรัฐบาลและข้อสั่งการของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ได้ให้ไว้เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2562 อาทิ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยหลักบูรณาการสั่งการโดยผู้ว่าราชการจังหวัด หากฝุ่นละออง สูงเกินเกณฑ์มาตรฐานให้ประกาศห้ามเผาโดยทันทีให้นายอำเภอ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ ถึงระดับตำบล โดยเฉพาะตำบลเสี่ยงเผาให้กระทรวงกลาโหมสนับสนุนการลาดตระเวนและดับไฟทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศอย่างเต็มที่ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งเปลี่ยนพื้นที่การเกษตรทั้งหมดใน 9 จังหวัดภาคเหนือ ไปสู่การเป็นเกษตรปลอดการเผา 3 ปี สำหรับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอให้ลดจุดความร้อนในพื้นที่ป่า ให้เป็นศูนย์ ในระหว่างวันที่ 15 มีนาคมถึง 30 เมษายน 2563 พร้อมทั้งระดมสรรพกำลังอุปกรณ์เครื่องมือจากนอกพื้นที่ มาเสริมการลาดตระเวนเฝ้าระวังและดับไฟป่า ไม่ให้เกิดการลุกลามของไฟจนไม่สามารถควบคุมได้และให้เข้มงวดการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
หลังจากประชุมเสร็จได้เดินทางไปยังจุดสกัดไฟป่าดอยพระบาทบริเวณอ่างเก็บน้ำวังเฮือ ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง ตรวจเยี่ยมและปล่อยแถวกำลังพลพร้อมทั้งมอบถุงยังชีพเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ดับไฟป่า(เหยี่ยวไฟ) ชุดปฏิบัติการพิเศษสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปางกรมป่าไม้ ชุดปฏิบัติการ พิเศษดับไฟป่า(เสือไฟ) ชุดลาดตระเวนป้องกันไฟป่าของอุทยานแห่งชาติเขตรักษาพันธุ์ สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและ พันธุ์พืช พร้อมหน่วยงานทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จิตอาสาพระราชทาน อาสาสมัครรักษาดินแดน และเครือข่ายภาคประชาชนในท้องที่จังหวัดลำปางที่ร่วมเป็นกำลังสำคัญ ในการป้องกันและดับไฟป่าทั้งนี้เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยในการปฏิบัติงานและขอให้ทุกคนเดินหน้าช่วยการป้องกันและดับไฟป่าอย่างเต็มที่รวมถึงช่วยขยายผลสร้างการรับรู้สร้างแนวร่วมในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้อันมีค่า ให้คงอยู่ถึงลูกหลานต่อไป
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อตรวจสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดลำปาง แพร่ และน่าน ว่า สถานการณ์ไฟป่าขณะนี้จะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดซึ่งต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือที่ได้ทำงานอย่างเข้มงวด ซึ่งถึงแม้ว่าจุดความร้อนจะไม่ได้ลดลงแต่คุณภาพอากาศดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เห็นถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เข้าไปดับจุดไฟไหม้ป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งใช้ระบบ Single Command โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บัญชาการสั่งการแต่ละพื้นที่ ทำให้สถานการณ์ภาพรวมในปีนี้ดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาโปรแกรมการจองเผาเพื่อกระจายการเผาในแต่ละพื้นที่เพื่อให้สภาพอากาศดีขึ้นไม่ก่อให้เกิดปัญหาฝุ่นควัน
ส่วนประเด็นที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้เข้ายื่นเอกสารร้องกรมป่าไม้ ให้ตรวจสอบกรณีที่ดินของ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรี ทส. ได้กล่าวว่าในเบื้องต้นตนเองได้รับรายงานแล้ว ซึ่งก็ถือว่าเป็นการรับเรื่องร้องเรียนตามปกติโดยจะได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบและดำเนินการตามขึ้นตอน ซึ่งยืนยันว่ากรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีกฎหมายอยู่ฉบับเดียวที่มีมาตรฐานเดียวกันไม่ได้มีสองมาตรฐานหรือหลายมาตรฐานแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ไม่ได้ละเลยแต่อย่างใดแต่จะต้องมีความรอบคอบขึ้นเพื่อป้องกันการถูกฟ้องกลับ