เหยื่อดิไอคอนลำปางทยอยเข้าแจ้งความล่าสุดกว่า50ราย ส่วนใหญ่เสียหายคนละเกือบสามแสน รวมมูลค่าเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า15ล้านบาทแล้ว ผู้การลำปาง สั่ง ทุก สภ.รับแจ้งความ

Last updated: 17 ต.ค. 2567  |  106 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เหยื่อดิไอคอนลำปางทยอยเข้าแจ้งความล่าสุดกว่า50ราย ส่วนใหญ่เสียหายคนละเกือบสามแสน รวมมูลค่าเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า15ล้านบาทแล้ว ผู้การลำปาง สั่ง ทุก สภ.รับแจ้งความ

  
           บ่ายวันนี้ วันที่ 17 ตุลาคม 2567 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง ผู้สื่อข่าวได้ไปติดตามการเข้ามาแจ้งความของผู้เสียหายจากกรณี บริษัทดิไอคอนกรุ้ป ซึ่งตั้งแต่เป็นข่าวจนถึงวันนี้ 4-5 วัน มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความแล้วกว่า 50 รายซึ่งเมื่อรวมความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 15ล้านบาทแล้ว ทาง เจ้าหน้าที่ระบุว่าตลอดทั้งวันผู้เสียหายจะทยอยเข้าแจ้งความเรื่อยๆ โดยทางตำรวจจะมีแบบฟอร์มไว้ให้เพื่อตอบคำถามและให้ผู้เสียหายเตรียมเอกสารต่างๆที่ต้องใช้มาให้พร้อมเพื่อความรวดเร็ว ซึ่งขระที่ผู้สื่อข่าวอยู่ที่ สภ.ประมาณ 1 ชั่วโมงมีผู้เสียหายทยอยเข้ามาแจ้งความถึง 4 ราย


              โดยรายแรกเป็นช่างเสริมสวย นางอุบลสวรรค์ อายุ 39 ปี ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าในช่วงโควิดปี 2564 ร้านบริการถูกปิดจึงอยากหารายได้เสริมโดยเห็ฯโฆษณาการสอนออนไลน์ทางออนไลน์ราคาถูกเพียง 89 บาท จึงสน และลองสมัครเรียน เริ่มต้นก็เข้ากลุ่มเรียน จากนั้นจึงมีการเสนอสินค้าโดยให้ลองซื้อกินซื้อใช้ในราคา 2,500 บาท จากนั้นก้เริ่มชักชวนหว่านล้อมให้ลองขายโดยเพิ่มวงเงินการลงทุนเรียกว่าซุป ราคา 25,000 บาท โดยบอกว่าสินค้าที่มีเราสามารถขายต่อให้กับลูกค้าที่สมัครใหม่ได้ วางขายหน้าร้านได้ จากนั้นก็บอกว่าหากลงทุนเป็นดีลเลอร์ก็เสมือนเป็นห้างที่ใหญ่ขึ้นของที่มีก็จะถูกขายให้กับลุกค้ารายใหม่ที่เริ่มเรียน รับรองขายได้และจะมีรานได้เพิ่มจากส่วนแบ่งการตลาดด้วย ตนเองจึงนำรถยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์เป็นเงิน 160,000 บาท พร้อมกับนำสร้อยไปขายและเงินที่สะสมไว้นำไปลงทุนกับบริษัทรวม 250,000 บาท แต่หลังจากนั้นก็ต้องมาเสียเงินยิงแอดโฆษณาทักสัปดาห์ ซึ่งสินค้าก็ขายได้น้อยมาก แต่เน้นให้ไปหาลกค้าใหม่เข้ามาเรียนเพื่อเราจะได้ขายสินค้าได้ ซึ่งบางรายที่ต้องการเข้ามาเรียนป่วยและต้องการหารายได้เพิ่มซึ่งตนเองเห็นแล้วว่าทำไม่ได้จึงไม่อยากชักชวนคนเข้ามา เพราะตนเองจนถึงขระนี้ก็ยังต้องใช้หนี้ผ่อนรถที่นำไปเข้าไฟแนนซ์อยู่


                 ขณะที่คุณนภัทร ช่างเสริมสวย ก็บอกว่าตนเองต้องไปกู้ยืมเงินถึง 2 ที่ เพื่อนำมาเปิดบิลดีลเลอร์ 250,000 บาท เพราะต้องการมีรายได้และเห็นว่าน่าจะเป็นไปได้จากที่เข้าอบรมและจากการฟังบอสต่างๆพูด ซึ่งตนเองอยู่ในสายของบอสปัน


                 ด้านคุณอ้วน เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งเพิ่งสมัครเข้าเรียนเมื่อต้นเดือน ต.ค.67 หมดเงินไปกว่าสองแสนบาท โดยเริ่มแรกจ่าย 2,990 บาท ถัดมาจ่าย 25,000 บาท และ 51,480 บาท และมาจ่ายซื้อสินค้าพร้อมแพ็คเก็จท่องเที่ยว สำหรับ เดือนต.ค. 120,000 บาท โดยจะได้สินค้า 3 ลัง และโปรแกรมไปเที่ยวดูไบ แต่ทั้งนี้ยังไม่ได้สินค้า ยังไม่ได้ขาย และยังไม่ได้เดินทางไปเที่ยวเนื่องจากโปรโมชั่นตลอดเดือนต.ค. 67 ซึ่งตนเองจ่ายเงินไปหมดแล้ว ซึ่งแฟนของคุณอ้วนบอกว่าที่ผ่านมาสามีไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้แต่ครั้งนี้ครั้งแรกที่ทั้งตนเองและลูกคอยห้ามแต่ก็ไม่ฟัง เงินก็ยืมของลูกมาลงทุนสุดท้ายยังไม่ได้อะไรกลับมาเลย


                คุณอ้อ เจ้าของร้านขายของชำก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่วงปี 2564 โควิดเหมือนกันทั่วไปการค้าขายไม่ดีอยากเรียน พอเห็นโฆษณาขึ้นมาหน้าเฟสก็ลองสมัครเพราะราคาถูกแล้วก็ถูกชักชวนให้ซื้อสินค้าและลงทุนซึ่งตนเองก็ซื้อ 2,500 ต่อด้วย 25,000 และ สุดท้าย 25,000 บาท และต้องหมดเงินค่ายิงแอดไปหายหมื่นบาท แต่สุดท้ายทำไปได้พเพียงเดือนเศษ ก้ดูแล้วว่าไม่ใช่แต่เป็นการที่เราจะต้องหาลูกทีมไปเรื่อยๆจึงไม่อยากชักชวนใครเข้ามาทำเหมือนตัวเอง จึงหยุดทำ ซึ่งยังโชคดีที่เงินที่ลงทุนไม่ได้กู้ยืมมาจึงปล่อยผ่านไป
 
               ทางด้านพล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์  ผบก.ภ.จว.ลำปาง เปิดเผยว่า ทางผู้บังคับบัญชาสั่งการลงมาให้ดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ ซึ่งตนเองก็สั่งให้ทุก สภ.รับแจ้งความกับผู้เสียหายแล้ว โดยทาง สภ.จะมีแบบฟอร์มให้เหมือนกันหมดเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ทำงานทั้งช่วยเหลือผุ้เสียหายและติดตามพฤติกรรมของบุคคลที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับข้อมูลมาจ่ากส่วนกลางอยู่แล้ว ส่วนในพื้นที่หากท่านไหนเห็นว่าบุคคลใดมีพฤติกรรมทำธุรกิจแบบแชร์ลูกโซ่ก็ช่วยกันแจ้งแบะแสได้เพื่อจะได้ช่วยกันตัดไฟก่อนที่เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้