พบสาวแม่เมาะสมองร้าว-เลือดคั่ง-จำเหตุร้ายไม่ได้! หลังโดน "ไอ้แมว" หนุ่มพรหมพิราม ลากอีปิกบุกทำร้ายปางตายคาหอพัก

"ไอ้แมว" หนุ่มพรหมพิรามตามง้ออดีตแฟนสาวแม่เมาะไม่สำเร็จ ปีนรั้วหอพัก-พกอีปิกพังประตู-บุกทำร้ายปางตายคาหอพักกลางลำปาง จนเหยื่อสาวสมองร้าว-เลือดคั่ง จำเหตุการณ์เลวร้ายไม่ได้ รอแพทย์วินิจฉัยแนวทางรักษาต่อ เผยเคยขู่ฆ่าทั้งครอบครัวหากเลิกกัน

เมื่อวานนี้ ( 19 ส.ค.) นางสัญญา ชาวบ้านอำเภอแม่เมาะ อายุ 44 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เขลางค์นคร เมื่อเย็นวันที่ 19 ส.ค. เพื่อดำเนินคดีต่อนายธนชิต อยู่ทิพย์ อายุ 45 ปี ชาวพรหมพิราม จ.พิษณุโลก หลังก่อเหตุใช้อาวุธอีปิกขุดดินบุกเข้าไปทำร้ายลูกสาวของตัวเอง คือ น.ส.นันทพร (น้องป็อป) อายุ 25 ปี ถึงห้องนอนในหอพักย่านชุมชนสุขสวัสดิ์ จนได้รับบาดเจ็บและได้นำตัวส่งโรงพยาบาลลำปาง ขณะนี้ยังต้องรอการวินิจฉัยของแพทย์ ซึ่งเบื้องต้นแพทย์ระบุว่าสมองร้าวมีเลือดคั่งในสมอง

นางสัญญาได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ก่อนหน้านี้ลูกสาวได้ทำงานอยู่ที่พิษณุโลก และพานายธนชิตกลับมาที่บ้านให้พ่อแม่รู้จักถึง 2 ครั้ง เมื่อกลับไปพิษณุโลก เมื่อ 2 เดือนที่แล้วลูกโทร.มาบอกว่าถูกนายธนชิตทำร้ายร่างกายจนแขนเขียวช้ำและอยากจะเลิก ตนจึงได้บอกลูกว่าขอให้ใจเย็นๆ หากไม่อยากคบกันก็ขอให้พูดตกลงกันดีๆ อย่าให้มีเรื่องมีราวกัน

หลังจากนั้นลูกก็กลับมาอยู่บ้านและหางานทำ จนได้ทำงานในห้างแห่งหนึ่ง พร้อมได้เช่าหอพักอยู่ใกล้ๆ กับที่ทำงาน จนกระทั่งเมื่อกลางดึก (01.30 น.เศษ วันที่ 19 ส.ค.) นายธนชิตได้บุกมาก่อเหตุทำร้ายลูกสาวที่นอนอยู่ในหอพักจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอาการขณะนี้ยังต้องรอแพทย์วินิจฉัยก่อนว่าจะรักษาอย่างไรต่อ เพราะเท่าที่ดูฟิล์มเอกซเรย์พบสมองร้าวและมีเลือดคั่งในสมอง แม้จะพูดและรู้สึกตัวแล้วแต่จำเหตุการณ์ขณะที่ถูกทำร้ายไม่ได้

ผู้สื่อข่าวได้ไปดูที่หอพักที่เกิดเหตุพบกับนายทอง (นามสมมติ) ผู้ดูแลหอพัก ได้พาไปดูความเสียหายที่ประตูและเปิดกล้องวงจรปิดที่บริเวณด้านหน้าหอพักให้ดูพร้อมเล่าว่าประตูห้องได้รับความเสียหาย เนื่องจากโดนจามด้วยอีปิกขุดดิน และระบุว่าคนก่อเหตุคือนายธนชิต อยู่ทิพย์ ชาวจังหวัดพิษณุโลก ได้ขี่รถ จยย.มาจอดหน้าหอพักแล้วตะโกนเรียกชื่ออดีตแฟนสาวอยู่ที่หน้าหอฯ เนื่องจากประตูหอพักเป็นระบบคีย์การ์ดเขาเข้าไม่ได้ เมื่อเจ้าของหอพักเห็นภาพผ่านทางโทรศัพท์มือถือจึงได้พูดผ่านกล้องที่ประตูหอพักไล่ให้นายธนชิตกลับไปก่อนและให้กลับมาพูดคุยกันในเวลากลางวัน

กระทั่งเวลาประมาณ 01.30 น. (19 ส.ค. 67) ชายคนดังกล่าวได้ขี่รถ จยย.กลับมาจอดที่ริมถนนหน้าหอพักอีกครั้งและได้ปีนรั้วเข้าไปภายใน ก่อนพยายามตะโกนเรียกอดีตแฟนสาวที่หน้าห้อง แต่อดีตแฟนสาวไม่ยอมออกมา ชายคนดังกล่าวจึงหยิบเอาอีปิกขุดดินที่พกมาตรงเอวจามไปที่ลูกบิดประตูห้องหลายครั้งจนประตูพัง ก่อนที่จะใช้เท้าถีบประตูห้องเข้าไปทำร้ายอดีตแฟนสาว และรีบออกจากห้องหลบหนีไป ตนจึงรีบโทร.แจ้งตำรวจ สภ.เขลางค์นคร และกู้ภัยสว่างลำปางนำตัวหญิงสาวที่อยู่ในห้องส่ง รพ.

นายทองเล่าว่า เมื่อมาถึงที่ห้องเห็นน้องผู้หญิงนอนจมกองเลือดคาดว่าฝ่ายชายคงใช้อีปิกขุดดินทำร้ายน้องจนสลบและฝ่ายชายคงคิดว่าน้องตายแล้วจึงรีบหลบหนีไป และเท่าที่ทราบคนก่อเหตุเคยขู่ฆ่าน้องผู้หญิงกับครอบครัวว่าหากเลิกกับเขาก็จะฆ่าให้ตาย

 
เย็นวันเดียวกัน นายสัญญา และสามี ได้ไปรอเฝ้าดูลูกสาวซึ่งอาการดีขึ้นสามารถพูดคุยได้แล้ว แต่ใบหน้ายังบวม และต้องรอการวินิจฉัยของแพทย์ก่อนว่าจะรักษาอย่างไรต่อไป ซึ่งผู้สื่อข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับน้อง น้องก็สามารถพูดคุยได้แต่ยังปวดที่แผล โดยเฉพาะที่ศีรษะจับก็จะเจ็บ เวียนศีรษะ และง่วงด้วยฤทธิ์ยา

เมื่อถามว่าน้องจำเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุได้ไหม น้องบอกว่าตนเองจำอะไรไม่ได้เลยมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อนอนอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วอาจจะเป็นเพราะตนหลับลึก ด้านแม่และพ่อของน้องก็บอกว่าต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีต่อนายธนชิตให้ถึงที่สุด