กรมน้ำฯลงพื้นที่รับฟังปัญหาหลังชาวบ้านร้องให้ย้ายท่อกระจายน้ำออกจากที่นา ขอชาวบ้านเห็นในความตั้งใจดีหากต้องรื้อทำใหม่ก็จะเสียงบประมาณอีกมาก ขณะที่ชาวบ้านยันให้ย้ายออก

Last updated: 19 มิ.ย. 2567  |  368 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กรมน้ำฯลงพื้นที่รับฟังปัญหาหลังชาวบ้านร้องให้ย้ายท่อกระจายน้ำออกจากที่นา ขอชาวบ้านเห็นในความตั้งใจดีหากต้องรื้อทำใหม่ก็จะเสียงบประมาณอีกมาก ขณะที่ชาวบ้านยันให้ย้ายออก

         ที่ศาลอเนกประสงค์วัดนางแตน ม. 1 ต.ท่าผา อ.เกาะคา จ.ลำปาง นายชาตรี ละคำ นายช่างโยธาอาวุโส หัวหน้ากลุ่มงานสำรวจภูมิประเทศ สำนักงานทรัพยากรน้ำที่1ลำปาง พร้อมทีมสำรวจแออกแบบลงพื้นที่รับฟังปัญหาและรับข้อเรียกร้องของชาวบ้านนางแตน รวม 10 ราย ที่ได้รับผลกระทบจากการวางระบบท่อกระจายน้ำเข้าไปในพื้นที่นาของตนเองเป็นระยะความกว้างประมาณ 3 เมตร ลูก 2 เมตร ตลอดแนวพื้นที่ที่ติดถนน และดินได้ยุบตัวทำให้เกิดปัญหารถไถนาไม่ได้และเกรงจะเกิดอันตรายกับท่อหากอนาคตจะต้องมีการเจาะวางเสารั้วก่อกำแพงสร้างที่อยู่อาศัย จึงขอให้ย้ายออกจากพื้นที่

               ซึ่งการเข้ารับฟังปัญหาในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้เตรียมแบบแปลนการก่อสร้างหรือเอกสารอื่นใดเกี่ยวกับโครงการมาให้ชาวบ้านดู มาเพียงขอทราบปัญหาและมาหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน  ซึ่งนายชาตรี ได้กล่าวว่า ไม่ทราบจริงๆว่าเกิดปัญหากับชาวบ้านก็ต้องขออภัยชาวบ้านที่เดือดร้อนด้วย แต่ เนื่องจากโครงการดังกล่าวผ่านความเห็นชอบของสภาเทศบาลตำบลท่าผา และชาวบ้านเห็นชอบจนดำเนินงานเสร็จสิ้นและมีการส่งมอบงานเบิกจ่ายเงินแล้ว จึงอยากขอให้ชาวบ้านเห็นใจในส่วนนี้ เพราะหากจะต้องมีรื้อท่อออกก็จะต้องเสียเงินงบประมาณอีกมาก และโครงการดังกล่าวไม่สามารถจ่ายค่าเวนคืนได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยอมรับว่าไม่ได้มีการสำรวจสิทธิ์ในที่ดินก่อนเพราะเห็นว่าเป็นข้างถนนที่สโลปลงมาบริเวณที่นา และเป็นการขุดฝังแล้วกลบ ชาวบ้านก็ยังใช้ประโยชน์ได้ตามปกติ และก็รับทราบจากผู้ทำงานว่าไม่มีปัญหาและคุยกับชาวบ้านแล้ว ซึ่งเจตนาก็เพียงต้องการให้การส่งน้ำเข้าถึงชาวบ้านมากที่สุดและได้ใช้น้ำเร็วที่สุดและประหยัดงบประมาณเท่านั้น แต่เมื่อเกิดปัญหาก็จะไม่ได้นิ่งนอนใจพร้อมที่จะเข้ามาแก้ปัญหาแต่ด้วยโครงการทำไปแล้วก็อยากจะขอชาวบ้านว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายซึ่งก็จะได้มาคุยกัน


              ขณะที่ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าผา ก็ได้สอบถามและให้ข้อมูลว่า สำหรับโครงการดังกล่าวนั้น ยังไม่ผ่านมติของสภา แต่เคยมีการนำเข้าพิจารณาในสภาฯ 2 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกได้นำเข้ามาเพื่อพิจารณาในการประชุมสมัยแรก แต่มีเอกสารประกอบโครงการเพียง3แผ่น คือภาพถ่ายดาวเทียม  ใบปะหน้าโครงการ สถานที่ตั้ง และครั้งแรกการก่อสร้างไม่ใช่พื้นที่ของเทศบาลตำบลท่าผา แต่เป็นพื้นที่เทศบาลตำบลเกาะคา แต่ทำไมเทศบาลตำบลท่าผาจึงนำเข้าสภาฯมาเพื่อพิจารณาก่อนเจ้าของพื้นที่  จากนั้นโครงการดังกล่าวถูกนำกลับไปเข้าพิจารณาที่สภาของเทศบาลตำบลเกาะคา เจ้าของพื้นที่แต่ไม่ผ่าน เรื่องก็เงียบหายไป แต่จู่ๆก็มีการนำโครงการเข้าสภาฯมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พื้นที่คือบ้านนาเวียง เทศบาลตำบลท่าผา แต่ก็ไม่มีการทำประชาคมชาวบ้านมาประกอบโครงการ รายละเอียดโครงการไม่มีเช่นเดิม มีแต่ข้อดีของโครงการทั้งหมด


               ส่วนประเด็นที่ว่า ทำไมชาวบ้านไม่ร้องตั้งแต่ตอนแรก แต่ปล่อยให้ทำจนเสร็จ ชาวบ้านได้ให้ข้อมูลในที่ประชุมและซักถามกับเจ้าหน้าที่เช่นกัน ซึ่งชาวบ้านได้ทักท้วงและสอบถามมาตลอดแต่ไม่ได้รับคำตอบ โดยมีผู้บริหารท้องถิ่นบอกกับชาวบ้านว่าจะแก้ไขให้ ปล่อยให้ทำไปก่อน และได้บอกชาวบ้านเพียง 1-2 รายเท่านั้น

            ซึ่งในการรับฟังปัญหาของชาวบ้านในวันนี้ ชาวบ้านที่เดือดร้อน รวมถึงผู้นำหมู่บ้านเห็นตรงกันว่าไม่ควรละเมิดสิทธิชาวบ้าน ควรนำท่อออกจากพื้นที่นาเพราะชาวนาเกรงปัญหาอื่นๆที่จะตามมาเพิ่มเติมภายหลังด้วย ขอให้ฝังท่อตามแนวถนนเช่นเดียวกับที่ทำผ่านหมู่บ้านตลอดสายเช่นเดิม ซึ่งชาวบ้านไม่ได้คัดค้านโครงการ โครงการดี ชาวบ้านมีน้ำใช้ แต่ต้องทำให้ถูกขั้นตอนและไม่ละเมิดชาวบ้าน


            ด้าน ผู้ช่วย ส.ส.เขต4 ซึ่งเข้าร่วมสังเกตการณ์ในวันนี้ ได้ขอเป็นตัวกลางในการไลก่เกลี่ยระหว่างหน่วยงานรัฐกับชาวบ้าน โดยบอกกับชาวบ้านว่าได้รับฟังข้อมูลจากหน่วยงานไปแล้ว ขระนี้โครงกรทำเสร็จไปแล้ว ให้มาหาทางออกในการแก้ปัญหากันว่าจะทำอย่างไร อยากให้ชาวบ้านพบกันครี่งทาง มาดูกันว่าชาวบ้านรับได้แค่ไหน ทางราชการรับได้แค่ไหน ขอให้ชาวบ้านไปสำรวจความเสียหายของตัวเองก่อน ซึ่งชาวบ้านก็ได้ระบุว่าที่นาของชาวบ้านมีเพียงนิดเดียวแต่ละปีทำนายังไม่พอแล้วจะถูกตัดพื้นที่ออกไปอีกควรเห็นใจชาวบ้าน ไม่ได้คัดค้านโครงการโครงการดีชาวบ้านขอเพียงเอาท่อออกไปอยู่ที่เดิมเท่านั้น และขอให้ใช้งบที่ตัดออกเอาไปใช้ให้หมดไม่ต้องเก็บไว้

            ส่วนโครงการเฟส2 ที่ชาวบ้านบางส่วนเข้าใจว่าการที่ชาวบ้าน 10 รายที่ได้รับผลกระทบออกมาร้องเรียนจะทำให้โครงกรถูกยกเลิก ข้อเท็จจริงคือ ขณะนี้ยังไม่มีโครงการดังกล่าว ยังไม่มีการตั้งงบประมาณ ใดๆทั้งสิ้น


            หลังจากพูดคุยสอบถามปัญหาแล้วชาวบ้านได้นำเจ้าหน้าที่ลงไปดูจุดที่มีปัญหาและชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน โดยทางเจ้าหน้าที่จะได้นำข้อมูลทั้งหมดเสนอให้กับผู้บังคับบัญชาได้รับทราบอีกครั้ง และจะได้ตรวจสอบสิทธิในพื้นที่ดังกล่าวให้ชัดเจนก่อนและจะได้นัดพูดคุยกันอีกครั้ง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้