Last updated: 22 พ.ย. 2564 | 1866 จำนวนผู้เข้าชม |
สลด ลุงขับเก๋ง จะไปต่อภาษีรถยนต์ หลังภาษีขาดมา 3 ปี ไปเจอตำรวจตั้งด่าน ตกใจเบรกรถกลางถนนและชะลอถอยหลบด่านปิคอัพขับตามหลังเบรกไม่ทันชนท้ายอย่างจังจนไฟลุกท่วมรถเก๋ง ก่อนรถทั้งคู่จะแฉลบลงข้างทางคู่กรณีเปิดประตูดึงร่างลุงออกจากรถแต่หลานถูกก๊อบปี้คาแบะนั่งไฟลุกไหม้คอกหลานชายดับสยองคารถ
วันนี้ (22 พ.ย.) ร้อยตำรวจเอก อุดม ตาใจ พนักงานสอบสวนเวรสถานีตำรวจภูธรเกาะคาลำปาง พร้อมด้วยแพทย์เวร โรงพยาบาลเกาะคา เจ้าหน้าที่กู้ภัยเกาะคา กู้ภัยศาลา เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยนครลำปาง เดินทางเข้าไปตรวจสอบ บริเวณถนนพหลโยธิน ลำปาง - ตาก ขาขึ้นพื้น ที่ ตำบล ศาลา อำเภอเกาะคาจังหวัดลำปางเลยด่านชั่งน้ำหนัก อำเภอ เกาะคาประมาณ 100 เมตร หลังรับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ปิคอัพ ชนท้ายรถยนต์เก๋ง มีไฟลุกไหม้และมีผู้เสียชีวิต
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งมิตซูบิชิรุ่นเก่า สีบรอนเงิน ทะเบียน กฉ-6427 ลำปาง สภาพรถพังเสียหายยับเยินทั้งคันและมีร่องรอยไฟไหม้รถส่วนด้านหลังรถเก๋งก็มีร่องรอยถูกชนท้ายจนรถพังเสียหาย ภายในรถบริเวณเบาะนั่งคนขับฝั่งซ้าย พบศพผู้เสียชีวิตคือ นายวสิงหล สายสุด อายุ 17 ปี ชาว อ.เกาะคา จ.ลำปาง นักเรียนชั้น ม.3 เรียนอยู่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน สภาพศพถูกไฟไหม้เผาทั้งตัว ศพมีสีดำ เป็นตอตะโก เสียชีวิตอย่างสยดสยอง จนท.สมาคมกู้ภัยลำปาง ต้องใช้เครื่องตัดถ่าง เปิดงัดซากเหล็ก และ ช่วยนำร่างผู้ตายออกมาจากรถ
ส่วนคนขับรถรายนี้คือนายถนอม ชัยวังตา อายุ 80 ปี ลุงของผู้ตาย อยู่บ้านเลขที่ 171 ม.4 ต.นาแก้ว อ.เกาะคา จ.ลำปาง และยังเป็นอดีต ผญบ.บ้านนาแก้ว อ.เกาะคา และเป็นลุงของผู้ตายบอกว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองขับรถมาจากบ้านที่ อ.เกาะคา จ.ลำปาง จะไปต่อภาษีรถยนต์ ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดลำปาง หลังจาก ภาษีรถยนต์ ของตนเอง ไม่ได้ต่อภาษี ประจำปีมาได้ 3 ปี แต่พอช่วงที่ขับรถมาเลยด่านตรวจน้ำหนัก ประมาณ 50 เมตร พบว่ามี เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เกาะคา กำลังตั้งด่าน กวดขันวินัยการจราจร บนถนน ตนเองด้วยความตกใจ จึงรีบเบรกรถแล้วจอดรถอยู่บนถนนฝั่งขวาของถนน จนมีรถยนต์ปิกอัพ คู่กรณีที่ขับตามมาพุ่งชนท้ายรถยนต์ของเก๋งตนเอง จนได้รับความเสียหายและเกิดไฟลุกไหม้ หลังจากเกิดอุบัติเหตุแล้ว จนท.สมาคมกู้ภัยนครลำปาง ได้นำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลเกาะคา เพื่อให้ทางแพทย์เวรชันสูตรศพอีกครั้งหนึ่ง
ใกล้กันยังพบรถคู่กรณี เป็นรถปิกอัพ รถโตโยต้าสีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ฒท 1212 กรุงเทพ สภาพด้านหน้า พังเสียหาย หลังจาก พุ่งชนท้ายรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว โดยคนขับบอกว่าตนเองขับรถมาจาก กทม.เพื่อไปทำธุระที่เชียงใหม่ เมื่อมาถึงจุดเกิดเกตุตนเองขับมาตามปกติอยู่ๆรถเก๋งคันหน้าก็หยุดและถอย ตนเองเบรกไม่ทันและตนเองมีสติรู้ตัวตลอดจึงตัดสินใจชนเพราะหากหักหลบรถของตนเองก็พุ่งตกข้างทางและตนเองคงเสียชีวิตแน่นอน เมื่อชนแล้วรถก็เสียหลักลงข้างทาง ตนเองก็รับเปิดประตูรถออกมาและเห็นสภาพรถที่ถูกชนก็สัญชาตญาณตนคิดว่าอาจะเหิดไฟลุกไหม้เพระาได้กลิ่นแก๊สจึงรีบไปดึงตัวลุงออกจากรถแต่น้องที่นั่งมาดวยติดอยู่ในรถไม่สามารถช่วยออกมาได้
ขณะที่พลเมืองดีที่มาเห็นเหตุการณ์พอดี เห็นควันไฟขึ้นจากรถจึงลงไปช่วยแต่เห้นลุงออกมาแล้วแต่น้องอีกคนติดอยู่ในรถไม่สามรถดึงร่างออกมาได้จากนั้นไม่ถึง1นาทีไฟที่ไหม้อยู่ด้านหลังรถก็ลามมาด้านหน้าอย่างรวดเร็วตนเองตะโกนของที่ดับเพลิงที่ด่านตรวจแต่ไม่มีและก้ไม่รู้จะทำอย่างไรจนเห็ฯไฟคอกน้องต่อหน้าต่อตาแต่ช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ