อธิบดีกรมป้องกันฯ ให้ทุกจังหวัดใช้มาตรการแก้ปัญหาหมอกควันให้เข้มข้นหลังพบว่าหลายจังหวัดค่า PM2.5เพิ่มไม่หยุด ลำปางพุ่งเกือบ200ไมโครกรัม/ลบ.ม. ประชาชนเริ่มแสบจมูก-คอ-ตา ทุกหน่วยงานเร่งทำงานไม่หยุด เทศบาลเริ่มติดเครื่องพ่นละอองน้ำบริเวณสะพานลอยแล้ว

Last updated: 15 ก.พ. 2566  |  294 จำนวนผู้เข้าชม  | 

อธิบดีกรมป้องกันฯ ให้ทุกจังหวัดใช้มาตรการแก้ปัญหาหมอกควันให้เข้มข้นหลังพบว่าหลายจังหวัดค่า PM2.5เพิ่มไม่หยุด ลำปางพุ่งเกือบ200ไมโครกรัม/ลบ.ม. ประชาชนเริ่มแสบจมูก-คอ-ตา ทุกหน่วยงานเร่งทำงานไม่หยุด เทศบาลเริ่มติดเครื่องพ่นละอองน้ำบริเวณสะพานลอยแล้ว

  

ที่ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าจังหวัดลำปาง (วอร์รูม) นายชนาธิป เสมแย้ม รอง ผวจ.ลำปาง เป็นประธานในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า พร้อมทั้งได้ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์  ร่วมกันทุกจังหวัดโดยมี นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นประธาน เพื่อรายงานสถานกาณ์ การดำเนิน ผลการดำเนินงานและปัญหา  อุปสรรค และ แผนการดำเนินงานหลังจากนี้

สำหรับจังหวัดลำปางสถานการณ์หมอกควันเนื่องมาจากการเผาไหม้ในพื้นที่ป่ายังคงวิกฤติ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5  วันนี้ ( 15 ก.พ.) วัดค่าได้สูงสุด 192 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  เกินค่ามาตรฐานในระดับสูงกว่า เกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ค่า AQI อยู่ที่ 252 ส่งให้สภาพอากาศทั่วไปที่มองด้วยตาเปล่าเห็นเป็นหมอกควันที่เทา มองไม่เห็นภูเขา และประชาชนเริ่มแสบจมูก แสบคอ แสบตา ขณะที่ตั้งแต่ 1  ม.ค. ถึง 15 ก.พ.66 มีค่าเกินค่ามาตรฐานแล้ว 21 วัน และระหว่าง 14-15 ก.พ. มีจุดความร้อน จำนวน 133 จุด มากที่สุดคือ 1.แม่พริก 30 จุด 2.เถิน 29 จุด 3.งาว 18 จุด 4.แจ้ห่ม 16 จุด และ  5.เมืองลำปาง 9 จุด 

โดยอธิบดีฯ ได้เน้นย้ำให้แต่ละจังหวัดดำเนินการแผนและเพิ่มความเข้มข้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว คือ  หากค่าPM2.5 ไม่เกินค่ามาตรฐานก็ดำเนินการปกติ หากเกิน 51-75 ให้ดำเนินการให้เข้มงวดขึ้น และ หากเกิน 76-100  ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ โดยให้ใช้อำนาจตามหน้าที่ในการควบคุมแหล่งกำเนิด ควบคุมพื้นที่และกิจกรรม หากเกิน 100 ให้แต่ละจังหวัดเสนอมาตรการ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจาณาสั่งการต่อไป    

และทั้งนี้ขอให้แต่ละจังหวัดและมีศักยภาพควรพิจารณากระจายติดเครื่องวัดอากาศขนาดเล็ก เพื่อให้การวัดไปในจุดต่างๆมีความแม่นยำมากที่สุด เพื่อให้สอดคล้องต่อการพิจารณาสั่งการ

สำหรับการดำเนินงานของจังหวัดลำปางนอกจากจะมีการประชุมศูนย์วอร์รูมติดตามปัญหาที่เกิดขึ้น 3 วันต่อสัปดาห์แล้ว เจ้าหน้าที่เหยี่ยวไฟทั้งในพื้นที่และในภาคอื่นที่นำกำลังมาสมทบได้กระจายกำลังออกดับไฟในแต่พื้นที่ซึ่งมีกระจายทั้ง 13 อำเภอในแต่ละวัน ส่วนที่เหลือลงพื้นที่ทำแนวกันไฟในจุดเสี่ยง และ อปท.แต่ละพื้นที่ได้ช่วยกันใช้รถดับเพลังบรรทุกน้ำฉีดพ่นตามถนนสาธารณะเพื่อช่วยลดปริมาณฝุ่นด้วย

และ เมื่อเวลา 15.00 น. กรมควบคุมมลพิษได้รายงานสถานการณ์ค่าฝุ่นละออองขนาดเล็ก พบว่าจังหวัดลำปาง จากช่วงเช้า 192 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร เพิ่มขึ้นเป็น 252 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร ณ สถานีวดคุณภาพอากาศ ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง และ 195 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร ณ สถานีวดคุณภาพอากาศ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ และ 153 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร ณ สถานีวัดคุณภาพอากาศ ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ  ขณะที่เพียงครึ่งวันพบจุดความร้อน หรือ hotspot จากการตรวจจับของดาวเทียม Suomi NPP ระบบ VLLRS กระจายในพื้นที่ป่าอนุรักษ์  ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่การเกษตร เขต สปก. รวม 23 จุด

ด้านสถานการณ์ดังกล่าว เมื่อเวลา 15.30 น. เทศบาลนครลำปาง โดยนายสุรพล ตันสุวรรณ รองนายกเทศมนตรีนครลำปาง พร้อมด้วยทางเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง  ได้นำช่างเข้าติดตั้งเครื่องพ่นละอองน้ำ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก บริเวณสะพานลอยคนเดินข้าม จำนวน 5จุด โดยเริ่มที่จุดหน้าโรงเรียนอนุบาลลำปาง เนื่องจากจุดดังกล่าวมีประชาชนใช้สะพานลอยจำนวนมากโดยเฉพาะเด็กเล็กในเวลาเช้าและเย็นจะมีผู้ปกครองมาส่งบุตรหลานที่โรงเรียนและต้องใช้สะพานลอยเดินข้าม จุดที่2 คือ บริเวณสะพานลอยหน้าสนามกีฬากลางจังหวัดลำปาง จุดที่3 คืด บริเวณสะพานลอยหน้าวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชชนี จุดที่4 คือ สะพานลอยหน้าศาลากลางจังหวัดลำปาง และ จุดที่5 คือซุ้มทางเข้าเขตเทศบาลนครลำปาง

 

และล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.19(แม่โป่ง) พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.20(แม่หวด) และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภองาว ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาเผาป่า บุกรุกป่า จำนวน 1 ราย ชื่อนายซูเอี๋ยน แซ่เติ๋น ในท้องที่บ้านขุนแหง ม.7 ต.ปงเตา อ.งาว จ.ลำปาง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่งาวฝั่งซ้าย ตรวจสอบถามนายซูเอี๋ยน เจ้าตัวรับสารภาพว่าเดิมมีพื้นที่อยู่ด้านบนและเมื่อวานนี้ได้เริ่มมาเผาเพื่อขยายพื้นที่เพิ่ม จนทำให้เกิด Hotspot ขึ้นบริเวณโดยรอบ จนท.จึงเข้ามาตรวจสอบในวันนี้และพบว่านายซูเอี๋ยน อยู่ในพื้นที่จุดดังกล่าวและบริเวณป่าที่ถูกไหม้ยังคงมีควันไฟคละคลุ้ง  พบป่าเสียหายประมาณ 4-2-95 ไร่ จนท.จึงได้จัดทำบันทึกจับกุมเพื่อนำตัวส่งพนักงานสอสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้