ผู้ว่าฯยันเขื่อนปล่อยน้ำระดับ2-ยังไม่กระทบท้ายน้ำ-ชลประทานชงเรื่องปล่อยระดับ3รอ-หากฝนยังตกเหนือเขื่อนยาวถึง 20 ก.ย.

ผู้ว่าลำปางยืนยันการระบายน้ำออกจากเขื่อนยังไม่กระทบกับประชาชนที่อยู่ท้ายน้ำ คาดการณ์ยังมีฝนตกยาวถึง20ก.ย.ชลประทานชงเรื่องรอขออนุมัติระบายน้ำออกจากเขื่อนในระดับ3รอแล้ว

นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นายพีรยุทธ์ เหมาะพิชัย ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา นายจรัสพันธ์ อรุณคง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง นายสุรพล ตันสุวรรณ รองนายกเทศมนตรีนครลำปาง  นายมานิต อุ่นเครือ  นายก อบต.พิชัย  นายสองเมือง วงศ์ไชย นายกเทศมนตรีเมืองพิชัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ออกสำรวจจุดระบายน้ำของกรมชลประทาน ซึ่งระบายออกสู่แม่น้ำวัง

โดยพบว่าขณะนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำวังขยับเพิ่มขึ้นประมาณ1 เมตร ทำให้ถนนเลียบน้ำวังในเขตเทศบาลนครลำปาง ในย่านตำบลเวียงเหนือน้ำได้ท่วมถนนเลียบแม่น้ำวัง และในจุดที่เป็นที่ลุ่มต่ำน้ำได้ไหลท่วมเข้าบ้านเรือนแล้ว

นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้กล่าวระหว่างที่ออกสำรวจพื้นที่ว่า ขณะนี้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมี 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ห้างฉัตร เกาะคา สบปราบ เถิน และ แม่พริก ซึ่งเกิดจากฝนตกหนักในพื้นที่ และท่วมขัง ซึ่งหน่วยงานในพื้นที่ก็ได้มีการออกช่วยเหลือ การแจ้งเตือนภัย อพยพเคลื่อนย้าย และช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆซึ่งก็ทำให้การสถานการณ์กลับมาเป็นปกติได้เร็ว ต่อจากนี้ก็จะได้เยียวยากันต่อไป ส่วนบ้านเรือนที่มีผลกระทบจากน้ำท่วมที่เกิดจากการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนใหญ่สองเขื่อนนั้นจะมีเพียงบ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำวังและเป็นพื้นที่ที่ลุ่มต่ำ พื้นที่การเกษตร พร้อมยืนยันว่าการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนในขณะนี้คือไม่เกินระดับ2เพราะไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบกับประชาชนท้ายน้ำ

ทางด้านนายพีรยุทธ์ เหมาะพิชัย ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา กล่าวว่าขณะนี้ปริมาณน้ำที่กักเกฌบของเขื่อนกิ่วคอหมามีปริมาณ 172 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นปริมาณความจุ 102% เกินความจุเก็บกักแล้ว ซึ่งต้องระบายน้ำออก ขณะนี้ได้ระบาย 100 ลบ.ม./วินาที และจะเพิ่มการระบายเป็น 150  ลบ.ม./วินาที  โดยไม่ให้เกินนี้เพื่อลดผลกระทบความเสียหายของพื้นที่การเกษตร และประชาชนที่อยู่ด้านท้ายน้ำ ส่วนเขื่อนกิ่วลม มีปริมาณน้ำ 88 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 83% ความความจุเก็บกัก ขณะนี้ได้ระบายออก 300 ลบ.ม./วินาที ซึ่งได้มีการขอไปยังจังหวัดคือไม่เกิน 350 ลบ.ม./วินาที ซึ่งก็จะพยายามรักษาการปล่อยน้ำออกไม่ให้เกิน 350 ลบ.ม./วินาที เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบด้านท้ายมาก แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าเมื่อมีการระบายน้ำออกจากเขื่อนกิ่วคอหมามากน้ำก็จะมาสมทบที่เขื่อนกิ่วลม ปริมาณน้ำก็จะเพิ่มขึ้น ก็จำเป็นจำต้องเพิ่มการระบายน้ำออกจากเขื่อนกิ่วลมเพิ่มด้วย  ดังนั้นหากวันหรือสองวันนี้ไม่มีฝนตกลงมาสมทบก็จะสามารถลดระดับน้ำในเขื่อนลงได้และลดการระบายได้ ซึ่งต้องดูน้ำในอ่างและท้ายอ่างให้สอดคล้องกันด้วย

อย่างไรก็ตามขณะนี้ปริมาณน้ำที่เข้าเติมในเขื่อนยังมีปริมาณที่เยอะทั้งสองเขื่อน คือ เขื่อนกิ่วคอหมามีน้ำไหลเข้าประมาณ 160 ลบ.ม./วินาที ขณะที่ระบายออก 100 ลบ.ม.วินาที ซึ่งก็ยังมีปริมาณน้ำที่สะสมอยู่ ซึ่งก็กำลังจะพิจารณาเพิ่มจาก 100 ลบ.ม./วินาที เป็น 150 ลบ.ม./วินาที ขณะที่เขื่อนกิ่วลมมีน้ำไลเข้าประมาณ 300 กว่า ขณะที่ระบาย 300 ลบ.ม./วินาที ก็จะเพิ่มเป็นระบายออก 350 ลบ.ม./วินาที แต่ก็จะเพิ่มระดับทีละน้อยเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบมาก ซึ่งขณะนี้ยังระบายน้ำอยู่ในระดับ2 ที่ขออนุมัติกับ สำนักชลประทานที่2 คือ เขื่อนกิ่วลมไม่เกิน 400 ลบ.ม./วินาที แต่ได้ขอผู้ว่าราชการจังหวัดไว้ที่ 350 ลบ.ม./วินาที ส่วน เขื่อนกิ่วคอหมาจะไม่เกิน 150 ลบ.ม./วินาที ซึ่งหากฝนตกเพิ่มและต้องระบายน้ำถึงขีดระดับสูงสุดของทั้งสองเขื่อนแล้ว และต้องเพิ่มการระบายเป็นระดับ3 จะต้องทำเรื่องไปขอนุมัติจากคณะกรรมการน้ำจากกรมชลประทาน ซึ่งขณะนี้ได้มีการทำหนังสือส่งไปไว้รอพิจารณาแล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะต้องแจ้งล่วงหน้า3วัน เนื่องจากยังคาดการณ์ว่าจะยังมีฝนตกลงมาจนถึงวันที่ 20 ก.ย.

จุดที่น่าห่วงในเขตเทศบาลนครลำปาง คือ จุดสะพานเสตุวารี น้ำแม่น้ำวังได้เริ่มล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่สองฝั่งบริเวณถนนเลียบแม่น้ำวังและบ้านเรือนที่อยู่ลุ่มต่ำแล้ว ซึ่งบ้านเรือนส่วนใหญ่ยังอยู่ในที่สูงและยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่อาจจะไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางเข้าออก ซึ่งเทศบาลนครลำปางได้ประกาศแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด