BNI ขยายฐานสู่ลำปาง เปิดตัว BNI Family Lampang ดึงนักธุรกิจที่ไม่ซ้ำกันรวมตัวฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจแบบเพื่อนช่วยเพื่อนเริ่มต้น3เดือนมีเงินหมุนเวียนในกลุ่มแล้วกว่า4ล้านบาท

            ที่ห้องประชุมโรงแรมเวียงละคอร อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ได้มีการเปิดตัว BNI Family Lampang ซึ่งเป็นสาขาที่ 95 ในประเทศไทย โดยมีคุณกลกิตติ์ เถลิงนวชาติ ประธานอำนวยการ BNI ประเทศไทย มาร่วมแสดงความยินดีในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกลุ่มแรกในจังหวัดลำปาง ที่ใช้ชื่อว่า BNI Family Lampang มีคุณพชร เกียรติโภคะ และ คุณภาสุ คงประเสริฐกิจ เป็นผู้ก่อตั้งและดูแลในเขตพื้นที่จังหวัดลำปางและพะเยา คุณพัทธดนย์ แก้วบุญเรือง เป็นประธานกลุ่ม BNI Family Lampang ซึ่งขณะนี้ในกลุ่มแรกมีผู้ประกอบการในจังหวัดลำปางได้เข้าร่วม 50 ธุรกิจที่ไม่ซ้ำกันในระยะเวลาที่เริ่มดำเนินงานขององค์กรเพียง 3 เดือน มีเงินสะพัดให้กับสมาชิกในกลุ่มแล้วกว่า 4 ล้านบาท

            โดยหลักการสำคัญของ BNI เป็นองค์กรที่รวบรวมเจ้าของธุรกิจที่ไม่ซ้ำกันมารวมกัน เพื่อแลกเปลี่ยนและส่งต่อคอนเนคชั่น  ของเพื่อนให้กับเพื่อนและคนที่รู้จักแบบปากต่อปาก เพื่อนช่วยเพื่อน โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น มีแต่คำขอบคุณระหว่างเพื่อนเท่านั้น โดยผู้ประกอบการหรือนักธุรกิจที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่ม จะเป็นเจ้าของธุรกิจตัวจริงมีโอกาสเข้าไปนำเสนอสินค้าและบริการของตัวเองให้กับเพื่อนนักธุรกิจด้วยกัน และเพื่อนจะทำหน้าที่เป็นเซลล์นำธุรกิจของเพื่อนส่งต่อ บอกต่อไปเรื่อยๆ และด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน BNI มั่นใจว่า การที่มีคอนเนคชั่นที่ดีจะช่วยให้ผู้ประกอบการในทุกสาขา ในทุกพื้นที่เติบโตและอยู่รอดได้

            คุณกลกิตติ์ เถลิงนวชาติ ประธานอำนวยการ BNI ประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า วันนี้ทาง BNI ประเทศไทย ตั้งใจมาเปิดกลุ่มแรกในจังหวัดลำปาง เน้นการสร้างเข้มแข็งของ SME จากประสบการณ์ที่ทำงานในประเทศไทย 19 ปี และในระดับโลก 40 ปี ซึ่งจะเห็นว่าผู้ประกอบการยังขาดในด้าน Know-how  และ know-Who หลายคนที่อยู่ในจังหวัดต่างๆจะเริ่มการทำธุรกิจจากครอบครัวและจากตัวเอง การที่จะจะออกไปค้นหาความรู้ใหม่ๆหรือการทำธุรกิจค่อนข้างจะยาก เพราะจะยุ่งกับการหาลูกค้าตลอดเวลา BNI มองเห็นสิ่งนี้ จึงทำใน 3 อย่าง คือ 1.การพัฒนาภาวะผู้นำ เพราะหัวใจของ SME คือต้องมีวิสัยทัศน์ก่อน ซึ่งการนำนักธุรกิจหลากหลายอาชีพมารวมกันก็จะเกิดการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนระหว่างกัน ซึ่งใช่การเรียนรู้พาะในจังหวัดเท่านั้นแต่เป็นการเรียนรู้ในต่างจังหวัด เพราะ BNI มีมากกว่า 15 จังหวัดในปัจจุบันและจะขยายไปให้ครบทุกจังหวัด และมีมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก 2.ระบบ BNI มีระบบที่พิสูจน์ให้เห็นมาแล้ว40ปี และในไปทยกว่า 19 ปี สามารถทำยอดธุรกิจให้กับสมาชิกทั่วประเทศได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และล่าสุดในปีที่ผ่านมา แม้จะเกิดวิกฤติต่างๆขึ้น แต่ยอดที่ทำให้กับผู้ประกอบการSME มีสูงถึง 22,000 กว่าล้านบาท ซึ่งปีนี้ก็ตั้งเป้าว่าจะต้องสูงขึ้นกว่านี้ได้อีก เพราะเชื่อมั่นว่าเมื่อทุนตัวเล็กมารวมกันก็จะสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ได้ และ 3.การพัฒนาเครือข่ายให้มากขึ้น ซึ่งวันนี้ไม่ได้มาทำธุรกิจเฉพาะในลำปางเท่านั้นแต่ต้องการนำธุรกิจ สิ่งดีดีในจังหวัดออกไปสู่จังหวัดอื่น ประเทศอื่นๆทั่วโลก ซึ่งจังหวัดต่างๆที่ถือว่าเป็นหนึ่งบริษัท ให้มีโอกาสในการขยับขยาย เพาะหากมุ่งอยู่แต่ในจังหวัดเม็กเงินก็จะน้อย หากนำออกนอกจังหวัดได้เม็ดเงินก็จะกลับเข้ามาในจังหวัดมากขึ้น จะทำให้ผู้ประกอบการกลับมารักบ้านเกิด กลับมาทำอะไรดีดีในจังหวัดให้เติบโต และนั่นคือจุดยืนที่ตนเองนำระบบ BNI เข้ามาในประเทศไทยและทเพื่อคนไทย นี่คือความแตกต่างที่จะเกิดขึ้นในลำปาง

สิ่งที่ตนเองมองจังหวัดลำปางคือ จะเห็นว่าหลายคนจะมุ่งไปในจังหวัดหลัก แต่จริงๆแล้วจังหวัดรองมีของดี แต่ไม่ได้รับการมองเห็นหรือสนับสนุนเท่าที่ควร สิ่งที่BNI ทำคือทุกจังหวัดเท่ากัน หากแต่ละจังหวัดมีของดี BNI พร้อมที่นำพาทุกธุรกิจไปด้วย ดังนั้นกลุ่มแรกที่ตังขึ้นในลำปางจึงใช้ชื่อว่า BNI Family Lampang ซึ่งเสมือนทุกคนเป็นคนในครอบครัวทุกคนจะช่วยกันไม่ทิ้งกัน และจะพัฒนาคนในครอบนี้เป็นต้นแบบในจังหวัดลำปาง เพื่อจะให้เห็นว่าจะรวมตัวกันอย่างไร จะใช้คอนเนคชั่นอย่างไร เพื่อช่วยพันพัฒนาธุรกิจอย่างไรเพื่อไปแข่งขันกับธุรกิจระดับประเทศได้ เพื่อให้เม็ดเงินเข้ามาในจังหวัด และด้วยระบบที่มี กลุ่มนี้จะเติบโตไปให้ได้ถึง100 ผู้ประกอบการ หรือ 100 อาชีพ นั่นหมายความว่าโอกาสที่จะขยายธุรกิจใหไปได้ถึงหนึ่งพันล้านบาทต่อปี ในการแนะนำลูกค้าระหว่างกันและกัน ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มที่มีสมาชิกระดับ 100 ธุรกิจแล้ว 7 กลุ่ม และลำปางจะเป็นกลุ่มมที่ 8 ซึ่งลำปางจะเป็น 1 ใน 8 จาก 95 กลุ่ม ต่อไปจะมีคนเดินทงเข้ามาที่ลำปางเพื่อดูระบบการทำงานว่าทำอย่างไรถึงช่วยกันให้ธุรกิจเติบโตได้ ฉะนั้นใครที่ประกอบธุรกิจอยู่แล้วและอยากเข้ามาร่วมกับ BNI Family Lampang เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาธุรกิจเศรษฐกิจและพัฒนาธุรกิจขอตัวเองก่อน แล้วต่อยอดไปสู่ยอดธุรกิจของจังหวัด รีบเข้ามาร่วม เพราะ BNI คือทางลัด ทางรอด ที่จะสามารถทำให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตไปได้

 คุณพชร เกียรติโภคะ ผู้ก่อตั้ง BNI Family Lampang กล่าวว่า BNI เป็นการรวมกลุ่มเจ้าของธุรกิจที่แตกต่างกันมาพบปะแลกเปลี่ยนและส่งต่อธุรกิจของตนเองและของเพื่อนให้กับคนที่รู้จัก ซึ่งขณะนี้จากที่เริ่มเปิดตัวมีกลุ่มนักธุรกิจที่หลากหลายอาชีพมารวมกันแล้ว 50 ธุรกิจ และตั้งเป้าไว้ว่าจะตั้งให้ได้ 5 กลุ่ม ปลายปีนี้จะเพิ่มให้ถึง 100 ธุรกิจ จึงอยากเชิญชวนผู้ประกอบการมาร่วมสร้างคอนเนคชั่นด้วยกันเพื่อการเติบโตทางธุรกิจได้ด้วยกัน

ทางด้าน คุณพัทธดนย์ แก้วบุญเรือง เป็นประธานกลุ่ม BNI Family Lampang ซึ่งประกอบธุรกิจโรงงานน้ำแข็ง กล่าวว่า การตั้งชื่อกลุ่มว่า BNI Family Lampang เพราะตั้งใจว่าอยากให้เป็นครอบครัวที่มาช่วยกันด้านธุรกิจ โดยผู้ที่เข้าร่วมกลุ่มมีทุกเจน ตั้งแต่อายุ 20 ปี ต้นๆไปจนถึง 70 กว่าปี ก็เข้ามาช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ ชี้แนะ และแนะนำยอดธุรกิจให้กับสมาชิกในกลุ่ม ซึ่ง BNI สามารถช่วยผู้ปะกอบการรายเล็กๆได้มาก เนื่องจากที่ผ่านมาจะเห็นปัญหาการขยายตลาด หากไม่รู้จักใครการเข้าถึง การนำเสนอสินค้า ก็จะยาก แต่ BNI Family Lampang จะเป็นตัวช่วยให้ผู้ประกอบการทุกคนที่ต่างสาขาอาชีพ มานำเสนอสินค้าธุรกิจของตนเองกับผู้ประกอบการอื่นๆได้โดยตรง และยังจะได้ยอดธุรกิจจากการบอกต่อของเพื่อนในกลุ่มให้อีกด้วย ซึ่งก็จะเป็นการช่วยเหลือส่งต่อยอดธุรกิจให้กับเพื่อนได้มีโอกาสมากยิ่งขึ้น พร้อมกับบางเรื่องที่เราต้องการคำปรึกษาก็จะสามารถขอคำปรึกษาจากเพื่อนในกลุ่มได้ โดยทุกคนจะมาพบปะกันทุกสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้เกิดความคุ้นเคยและเชื่อมั่นในการใช้บริการ ส่วนหนึ่งคืออชีพไม่ซ้ำกันจึงทำให้เกิดความปลอดภัยในการนำเสนอสินค้าขอคำปรึกษาต่างๆ ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มธุรกิจให้ได้ถึง 100 อาชีพ ซึ่งขณะนี้ยังว่างอยู่ อยากเชิญชวนนักธุรกิจในลำปางเข้ามาร่วมเพื่อสร้างสังคมนักธุรกิจคุณภาพในลำปางไปด้วยกัน