ท่านฑูตสหรัฐพอใจการค้นหาอัฐินักบินอเมริกันที่สูญหายในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 บนดอยฝรั่ง ภาพรวมถือว่าประสบความสำเร็จ ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี

ตลอดช่วงเช้าวันนี้ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ท่านฑูตโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค พร้อมด้วย ท่านลิสา เอ. บูเจนนาส กงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ พร้อมคณะได้เดินทางมาดูความคืบหน้าและให้กำลังใจกับทีมค้นหาอัฐิของนักบินสหรัฐอเมริกาที่ถูกยิงตกบริเวณดอยฝรั่ง ตำบลพิชัย จังหวัดลำปาง สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายอำเภอเมืองลบำปาง จนท.อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพตเจ้าของพื้นที่ รวมถึงสื่อมวลชนได้เดินเท้าขึ้นบนดอยฝรั่งซึ่งเป็นเนินสูงชันกว่า3กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางไปกลับกว่าสองชั่วโมง

        ซึ่งการมาตรวจเยี่ยมครั้งนี้ทางท่านทูตได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกในทุกด้านในภารกิจนำผู้สูญหายกลับมาตุภูมิ ซึ่งท่านทูตได้บอกว่าวันนี้ได้ก้าวเข้าไปใกล้ในการบรรลุเป้าหมายในการหาข้อสรุปให้กับครอบครัวของผู้ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักก็คือนักบินตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่2 ซึ่งท้ายสุดแล้วภารกิจนี้จะได้ข้อสรุปให้กับครอบครัว และวันนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ได้มาหวลรำลึกถึงผู้ที่จากไปด้วยควาอาลัยและเคารพ ซึ่งก็ตรงกันกับนโยบายของไทยที่บอกว่าเราจะไปทิ้งใครไว้เบื้องหลังไม่ว่าบรุษหรือสตรีที่สละชีวิตของตนในความขัดแย้งต่างๆที่ผ่านมา ซึ่งทางสหรัฐต้องการนำพวกเขากลับสู่มาตุภูมิกลับคืนสู่ครอบครัว ดังนั้นสิ่งที่ทำอยู่นี้จึงเป็นค่านิยมที่มีร่วมกันของทั้งสองประเทส เฉกเช่นเดียวกันกับที่สหรัฐและไทยที่จะร่วมมือกันที่จะกอบกู้ซากเรือหลวงสุโขทัยแบบจำกัดที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ที่อ่าวไทย

และวันนี้เป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ไทยกับสหรัฐที่มีมายาวนานซึ่งปีที่ผ่านมาก็มีการฉลองครบรอบ190ปี อย่างเป็นทางการไปแล้ว ซึ่งไทยเป็นเพื่อนคนแรกของสหรัฐในทวีปเอเชีย และในวันนี้ที่ทีมงานได้เข้ามาทำงานกับชาวลำปางและได้รับความร่วมมืออย่างดีรู้สึกประทับใจมาก

ส่วนความคืบหน้าในการค้นหานั้นถือว่ามีความคืบหน้าไปในทางที่ดี แต่ยังไม่สามารถบอกได้เจออะไร เพราะต้องนำสิ่งที่พบทั้งหมดส่งไปห้องปฏิบัติการของสำนักงาน DPAA ที่เมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย เพื่อการตรวจพิสูจน์  แต่ขณะนี้ภาพโดยรวมถือว่าประสบความสำเร็จและมีความคืบหน้าไปด้วยดี ส่วนจะทำการค้นหายาวนานแค่ไหนนั้นต้องดูความจำเป็นหากจะต้องค้นหาต่อ ต้องดูที่หลักฐานที่ได้ว่าจำเป็นต้องหาต่อหรือไม่

ทางด้านนายชนาธิป แสมแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่าดีใจที่ได้มีส่วนร่วมกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่มาค้นหาผู้เสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่2ซึ่งก็ผ่านมา80ปีแล้ว ทางจังหวัดลำปางพี่น้องชาวลำปาง ยินดีให้การสนับสนุนจนภาระกิจจะเสร็จสิ้นและได้พาทุกคนกลับบ้าน

นายภานุพงศ์  เปล่งขำ  หลานชาย เรืออากาศตรี (น.ท.) คำรบ (ทองคำ) เปล่งขำ ผบ.หมู่บินขับไล่ที่ 15 ซึ่งเดินทางมาร่วมกับภารกิจนี้ด้วย บอกว่าหากถามความรู้สึกส่วนตัวในฐานะของหลานชายนักบินที่ทำภาระกิจนี้ก็รู้สึกภูมิใจในตัวของคุณตามาก เพราะทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว ซึ่งในขณะนั้นหากดูสมรรถณะของเครื่องบินรบไทยกับฝ่ายตรงข้ามตนละชั้นของไทยไม่พร้อมเลยและสมรรถณะต่ำแต่คุณตาก็ใช้ทักษะที่เคยผ่านสงครามจริงมาแล้ว2ครั้ง และอาจจะด้วยภูมิประเทศบ้านของตัวเองด้วยทำให้เอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ในสถานการณ์คับขันเช่นนั้น แต่การมาค้นหานักบินผู้ที่เสียชีวิตครั้งนี้ตนเองก็อยากให้เจอโดยเร็วเพราะหากเป็นฝ่ายเราสูญเสีย เราก็คงอยากหาให้เจอและอยากให้พากลับบ้านเช่นกัน ส่วนเรื่องสงครามตนก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกเพราะมีแต่ความสูญเสีย สงครามเป็นเพียงเรื่องผลประโยชน์