4หมู่บ้านในตำบลบ้านดง อ.แม่เมาะ รวมตัวประท้วงหลังขบวนการขั้นตอนการอพยพชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแม่เมาะล่าช้ามาร่วม10ปี-มีแนวโน้มจะเป็นโรคเลื่อนต่อไปอีก

วันนี้ที่ห้องประชุม อบต.บ้านดง ชาวบ้าน 4 หมู่บ้าน ในตำบลบ้านดง ได้แก่ ม.1(หัวฝาย) ม.2 (บ้านดง) ม.7(สวนป่า) ม.8 (หังฝายหล่ายทุ่ง) กว่า 200 คน ได้มาร่วมประชุมเพื่อเรียกร้องให้ทาง หน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้มาตอบคำถาม ข้อสงสัย กับชาวบ้านกรณีการอพยพและการจ่ายเงินเยียวยาล่าช้าจากแผน และมีแนวโน้มจะขอขยายเวลาออกไปเป็นปี 2568-70 ซึ่งทำให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ของ กฟผ.ตั้งแต่ปี 2535 ที่เกิดก๊าซซัลเฟอร์รั่วไหล ต่อมาในปี 2541 เกิดวิกฤติฝนกรด ปี2554 เกิดการรั่วไหลของสารเคมี ปี2560 เกิดวิกฤติบริเวณที่ทิ้งดินในตำบลบ้านดง ถล่ม/สไลด์เป็นแนวยาว จากเหตุการณ์ดังกล่าวหลายๆครั้งจึงต้องขออพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่อันตรายร้ายแรง ต้องทนรับสภาพที่หวานอมขมกลืนและต้องรอแบบไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ โดยมีนายจำลักษณ์ กันเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายอำเภอแม่เมาะ พลังงานจังหวัด ผู้แทน กฟผ.และส่วนที่เกี่ยวข้อง มารับเรื่อง

ทั้งนี้ ครม.มีมติ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2556 ได้สั่งให้มีการอพยพราษฎร์ครั้งที่7 ซึ่งหากประชาชนสมัครใจก็จะใช้เวลาในการอพยพ 8-10 ปี ซึ่งการอพยพในครั้งที่7 (ล่าสุด) ระยะเวลาผ่านไป10 ปี  การดำเนินโครงการยังไม่ถึง70% และ มีแนวโน้มจะขยายเวลาต่อไปอีกไม่น้อยกว่า 5 ปี ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องรวมพลังมวลชนต้องมาชุมนุมเรียกร้องสิทธิ เรียกร้องความเป็นธรรมคืนประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนการใช้กฎหมาย โดยการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองด้วยเรื่องสุขภาพอนามัย ความเสียหายทางทรัพยากรในพื้นที่ หลายคดีตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

โดยแกนนำชาวบ้านได้ปราศรัยเรืองที่เกิดขึ้นว่าที่ผ่านมาชาวบ้านยอมทำตามเงื่อนไขของทางราชการมาโดยตลอด แต่สุดท้ายก็ทำงานแบบสองมาตรฐาน การประเมินราคาทรัพย์ผ่านไป10ปี ชาวบ้านยังไม่ได้เงิน และราคาเมื่อ10ปีก่อนกับตอนนี้ เงินชดเชยที่ประเมินจะยังสามารถสรา้งบ้านอยู่อาศัยได้หรือไม่ ในเมื่อขณะนี้วัสดุต่างๆขึ้นราคาเกือบ100% แต่เงินชาวบ้านยังไม่ได้รับ ทั้งๆที่เงินมีอยู่แล้ว ชาวบ้านรอเงินเพื่อจะสรา้งบ้านของตัวเองหลังจากที่มีการจับสลากพื้นที่ที่จะเข้าไปอยู่เรียบร้อยแล้ว บางรายขึ้นโครงบ้านไว้ เพราะมั่นใจว่าจะได้รับเงิเยียวยาตามเวลาที่กำหนด แต่วันนี้บ้านก็ยังทำต่อไม่ได้เพราะยังไม่ได้รับเงิน เรื่องเหล่านี้ชาวบ้านต้องรับกรรมจากการทำโครงการใหญ่ของภาครัฐทั้งสิ้น

และ ครั้งนี้ตำบลบ้านดงได้มีการตั้งคณะกรรมการชาวบ้านต่อต้านรุกรานทวงคืนความเป็นธรรมตำบลบ้านดง(คชต.ธ) ขึ้น เพื่อใช้ในการขับเคลื่อน ต่อสู้และเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านตำบลบ้านดงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีข้อเรียกร้องดังนี้

1.ให้เพิ่มค่าวัสดุอุปกรณ์ก่อสรา้ง100%ให้กับผู้อพยพ

  2.ให้จ่ายทดแทนค่าสูญเสียในการำเนินกิจกรรมการเกษตร ไร่ละ 10,000บาท/ปี

3.ให้ กฟผ.แม่เมาะ โดยโครงการอพยพ ดำนเนการจ่ายเงินทดแทนตามบัญชีทรัพย์สิน ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2565

4.ในการดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่หลังจากการเลิกกิจการขุดเหมืองและทิ้งดินในพื้นที่ตำบลบ้านดงนั้น ต้องดำเนินการกำหนดเป็ฯกฎหมายแนบท้ายประทานบัตร และแนบท้ายสัญญา EHIA  ของโรงไฟฟ้า โดยให้สิทธิชุมชนในพื้นที่เป็ฯผู้ร่วมดำเนินการกำหนดนโยบายในการฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ให้เป็นไปตามสภาพพื้นที่ และร่วมดำเนินการในทุกกระบวนการขั้นตอนของการฟื้นฟู

5.ให้ กฟผ.แม่เมาะ ติดตามเร่งรัด กฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีการจัดสรรค่าภาคหลวงแร่ให้เป็นไปตาม พรบ.แร่ 2560 เพื่อจะได้งบประมาณมาใช้ในการพัฒนา และเยียวยาประชาชนตำบลบ้านดงภายในเดือนธันวาคม 2565

6. ให้ กฟผ.แม่เมาะ เร่งรัด ติดตาม และดำเนินการตามกฎหมายที่เีก่ยวข้อง เพื่อเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่อพยพราษฎรในตำบลบ้านดง โดยให้กรมที่ดินดำเนินการสำรวจรังวัดออกเอกสารสิทธิที่ดินให้ชาวบ้านต่อไป ทั้งนี้กำหนดระยะเวลาให้แล้วเสร็จในวันที่ 30พ.ค.2567

7.กฟผ.แม่เมาะ ต้องจัดสรรงบประมาณในการดูแล บำรุงรักษาสาธารณะประโยชน์ในพื้นที่อพยพและพัฒนาเยียวยาคุณภาพชีวิตให้กับราษฎร4หมู่บ้าน อพยพปีละ 20ล้านบาท

8.ต้องมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงในการดำเนินการตามข้อเรียกร้องข้างต้น โดยผู้มีอำนาจในการลงนามประกอบด้วย กฟผ.แม่เมาะ , ผู้แทนกำนัน/ผู้ใหญ่บ้านตำบลบ้านดง และ ผู้แทน คชต.ธ เป็นผู้ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกัน

จากนั้นจึงได้ยื่นข้อเสนอทั้งหมดให้กับผู้แทนของแต่หน่วยงาน เพื่อนำไปพิจารณา และได้มีการนัดหมายกันอีกครั้งเพื่อให้ทุกฝ่ายมาลงนามร่วมกันคือวันที่ 24 พ.ค. นี้ หากไม่เป็นผลชาวบ้านจะรวมตัวไปปิดสายพานลำเลียงดินที่ต้องมาทิ้งในตำบลบ้านดงต่อไป