Last updated: 16 มี.ค. 2565 | 686 จำนวนผู้เข้าชม |
วันนี้ที่ศาลชมวิว วนอุทยานม่อนพระยาแช่ ทีมสัตว์แพทย์ พร้อมด้วย จิตอาสา ของมูลนิธิWVS ไทยแลนด์ ได้ร่วมกันจับสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่ตามป่าข้างทางบริเวณถนนทางขึ้นวนวนอุทยานม่อนพระยาแช่ ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง ทั้งตัวผู้และตัวเมีย ทำหมันเพื่อลดปริมาณสุนัขจรจัดซึ่งมีอยู่ในพื้นที่กว่า 300 ตัว และนับวันจะเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีการผสมพันธ์ุและออกลูกเพิ่มเรื่อย รวมถึงยังคงมีคนนำสุนัขมาทิ้งอย่างต่อเนื่อง ทำให้ที่ผ่านมาถนนดังกล่าวจะมีสุนัขจรจัดออกมาบนถนนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุและเกิดความสกปรกจากมูลสุนัขที่ขับถ่ายเรี่ยราดบนถนนดังกล่าว
แต่ด้วยมีผู้ใจบุญสงสารสุนัขจึงได้นำอาหารมาให้ตามไหล่ทางเป็นประจำ ทำให้สุนัขไม่ยอมไปไหน ยังคงปักหลักอยู่ในป่า ซึ่งบางครั้งมีประชาชนทำผ้าห่มเก่า รวมถึงอุปกรณ์ให้อาหารมาวางไว้ให้สุนัข แต่สุนัจก็คาบออกมาทิ้งจนทำให้เกิดความสกปรกตลอดเส้นทาง
ปัญหาดังกล่าวแม้ที่ผ่านมาทางหน่วยงาน รวมถึงท้องถิ่นจะร่วมกันแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่องทั้งจับทำหมันแต่ด้วยสุนัขเหล่านี้เป็นสุนัขจรจัดไม่คุ้นคนทำให้การจับยาก เมื่อจับก็จะวิ่งหนีเข้าป่า จึงไม่สามารถแก้ปัญหาได้กลายเป็ฯปัญหาเรื้อรังมาจนถึงปัจจุบัน แม้ล่าสุดจะมีโครงการทำที่พักพิงชั่วคราวให้สุนัขจรจัดเหล่านี้แต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากยังติดปัญหาเรื่องสถานที่ดำเนินการ
ซึ่งล่าสุดมูลนิธิWVS ไทยแลนด์ ได้รับการร้องขอให้เข้ามาช่วยทำหมัน จึงได้นำทีมงานเข้ามาสร้างความคุ้นชินให้กับสุนัขโดยการระดมกำลังมาทำคอกไม้ไผ่ไว้ตามแนวข้างทางเพื่อเป็นจุดให้อาหารสุนัข โดยขอความร่วมมือประชาชนผู้ใจบุญนำอาหารมาวางไว้ในคอก เพื่อให้สุนัขเข้ามากินและเกิดความเคยชินและสะดวกในการจับสุนัขไปทำหมัน ซึ่งหลังจากทำคอกเสร็จก็ได้นำอาหารมาใส่ไว้ ทำให้เห้นว่าสุนัขเริ่มรู้ว่าในคอกมีอาหารก็จะเริ่มเข้ามาดูในคอกเมื่อหิว และทางทีมงานจึงได้จับสุนัขที่เข้ามากินอาหารออกทำหมันวันละประมาณ30ตัว โดยตั้งเป้าทำงาน 5 วัน คือตั้งแต่ 14-18 มีนาคม รวม 150 ตัว
ทางด้านนายปริวรรธน์ ปภาวินท์ทรัพย์ ผู้แำนวยการฝ่ายปฎิบัติการ มูลนิธิ WVS ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางมูลนิธิได้รับการ้องขอให้ไปดำเนินการทำหมันให้กับสุนัขจรจัดในหลายพื้นที่ ส่วนที่ลำปาง มี 2 ที่คือ วัดเวฬุวนารม และ วนอุทยานม่อนพระยาแช่ แห่งนี้ ซึ่งทางทีมงานเน้นการทำหมันสุนัขเพื่อช่วยจำนวนประชากรสุนัขตามมท้องถนนเท่านั้น และตามวิธีที่ดำเนินการคือ เร่งทำให้เร็วที่สุดและปล่อยสุนัขเหล่านั้นกลับไปที่เดิมเพราะหากกักตัวสุนัขไว้นานจะทำให้มีปัญหาเรื่องการกลับเข้าฝูงได้ ส่วนการแก้ปัญหาทางมูลนิธิคิดว่าแนวทางที่ดีที่สุดคือต้องหยุดนำสุนัขมาปล่อย และอยากขอความร่วมมือกับประชาชนทุกคนว่าสุนัขเมื่อเลี้ยงแล้วจะมีค่าใช้จ่ายต่างๆเกิดขึ้น ฉะนั้นหากอยากเลี้ยงก็ขอให้พร้อมจริงๆ หากไม่พร้อมก็จะเลี้ยงได้ชั่วคราวสุดท้ายก็จะนำสุนัขมาปล่อยและเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นซึ่งการทำหมันเป็นเพียงการลดจำนวนเท่านั้นไม่ใชาการแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ