บ้านสวนป่าแม่เมาะทวงสัญญาย้ายบ้านหนีโรงไฟฟ้า กฟผ. เผยเรียกร้องมา 10 กว่าปี ตายกันไปกว่าครึ่งร้อย กระทั่งศาลสั่งแล้ว-ครม.มีมติชัด แถมยอมรับแทบทุกเงื่อนไข แต่ยังไม่ได้ย้าย

นายชัยชนะ วงศ์ศรีจันทร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพร้อมด้วย นายเนตร เมืองเย็น และ ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน บ้านสวนป่าแม่เมาะ หนึ่งใน 4 หมู่บ้าน ของ ตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ ที่กำลังรอการอพยพออกจากหมู่บ้านเดิม ที่ศาลปกครองเชียงใหม่สั่งให้ กฟผ.อพยพชาวบ้านที่อยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตรที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ออกนอกพื้นที่ และ มีมติ ครม.ให้ดำเนินการอพยพตั้งแต่ปี 2556 เมื่อรวมถึง ที่ชาวบ้านต่อสู้เพื่อขอย้ายออกจากพื้นที่ก่อนหน้านั้นตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบันยาวนานกว่า 10 ปี แล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังคงอยู่ที่เดิม และยังคงทนฟังเสียงสายพานลำเลียงดิน เสียงรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่วิ่งเข้าออกและเททิ้งดิน กลิ่นกัมมะถัน ฝุ่นจากการทิ้งที่ถูกกระสลมพัดมาที่บ้าน เช่นเดิม เนื่องจากจุดที่ กฟผ.นำดินที่ขุดจากบ่อเหมืองมาทิ้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านเพียงหนึ่งกิโลเมตรกว่าเท่านั้น

นายชัยชนะ บอกว่า ที่ผ่านมาหมู่บ้านของตนเองไม่มีปัญหาเหมือนหมู่บ้าน ชาวบ้านต้องการย้ายออกจากหมู่บ้านเพราะได้รับผลกระทบจริงๆ ชาวบ้านยอมรับตามเงื่อนไขที่ทางราชการปรับเปลี่ยนทุกอย่าง แม้แต่เรื่องการปรับลดที่ดิน ที่จะได้รับตามมติ ครม. จากเดิมที่ทุกครอบครัวที่อพยพจะได้รับที่ดิน 3 ไร่ ถูกลดลงเหลือ 2 ไร่ เหลือ 1 ไร่ และล่าสุดเหลือเพียง 181 ตรว. และ บางคนได้รับเงินเยียวยาไม่ถึงเจ็ดหมื่นบาท ซึ่งแทบทำอะไรไม่ได้ แต่ชาวบ้านก็ยอม เพียงเพราะต้องการอพยพออกจากที่ที่มีปัญหา แต่สุดท้ายเมื่อมีการเปลี่ยนผู้ว่าราชการจังหวัด ก็มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข และ ยังไม่ปฎิบัติตามมติ ครม.และมีการสั่งรื้อมติเดิมๆทิ้งทั้งหมด ซึ่งต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่อีก จนชาวบ้านที่ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ มะเร็งปอด และอื่นๆเสียชีวิตไปแล้วล่าสุดเพิ่งเผาเป็นรายที่65แล้ว

นายเนตร เมืองเย็น บอกว่า ขณะนี้พื้นที่อพยพมีการก่อสร้างสาธารณูปโภคไปบางส่วนแล้ว เช่น ประปา โรงเรียน ตลาด แต่ก็ยังมีอีกหลายส่วนเช่นการวางท่อ ยังไม่สามารถทำให้แล้วเสร็จและล่าช้ามาก เนื่องจากความบกพร่องของการจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐเอง  พื้นที่ที่ถูกจัดสรรไว้ขณะนี้เริ่มมีหญ้าต้นไม้ขึ้นปกคลุม แต่ชาวบ้านก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ย้ายเข้าไปก่อสร้างบ้านได้เมื่อไหร่ เพราะผู้บริหารระดับจังหวัดยังไม่มีความชัดเจน และยังยื้อเวลาออกไปแบบไม่มีกำหนด ที่ผ่านมาชาวบ้านพยายามทำตามข้อเรียกร้องของผู้บริหารระดับจังหวัด ซึ่งล่าสุดที่กังวลเรืองป่าสงวน ทางชาวบ้านก็เร่งดำเนินการแยกส่วนที่มีปัญหาให้เรียบร้อย โดยแบ่งออกเป็น4 กลุ่ม หรือ 4 ตะกร้า  และรอให้มีการประชุมตามที่ผู้ตรวจราชการฯบอกว่าขอให้คณะกรรมการฯประชุมทุกเดือนเพื่อรายงานความคืบหน้า แต่สุดท้ายเมื่อชาวบ้านทำเสร็จ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาก็ไม่มีการประชุม เลื่อนออกไปอีก เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดไม่พร้อม ซึ่งชาวบ้านได้ร้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลาออกจากการเป็นประธานคณะกรรมการการอพยพ เพื่อให้ผู้ที่กล้าตัดสินใจมานั่งในตำแหน่งแทน เพื่องานจะได้เดินได้แต่ก็ยังไม่มีคำตอบ

ลุงแก้ว วัย 73 ปี บอกว่าชาวบ้านในหมู่บ้านได้รับผลกระทบจริงๆ เนื่องจากหมู่บ้านอยู่ห่างที่ทิ้งดินเพียงกิโลเมตรกว่าๆ ขณะนี้ก็ได้รับผลกระทบเรื่องเสียง แรงสั่นสะเทือนเวลาสายพานลำเลียงดินและรถบรรทุกยักษ์ขนดิน และหน้าแล้งที่จะมาถึง ฝุ่นก็จะมาอีกเหมือนทุกปี ช่วงนี้ยังโชคดีที่มีฝนตกจึงไม่ค่อยมีฝุ่น ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านขณะนี้ต่างก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวทำให้ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ หอบหืด ภูมิแพ้กกันตลอด อยากวอนให้ผู้ใหญ่ได้เร่งตัดสินใจย้ายชาวบ้านนออกไปอยู่ในที่ใหม่โดยเร็วเพราะยังอยากมชีวิตในที่อยู่ใหม่