ลำปางค่าPM2.5พุ่งเกินมาตรฐานเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพหลังเกิดไฟป่ากระจายหลายพื้นที่

ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา(5ม.ค.) กำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ชุดเยี่ยวไฟ พร้อมทหารจากมณฑลทหารบกที่ 32 และภาคประชาชนจิตอาสา เร่งนำอุปกรณ์ไม้ตบ ถังพ่นและเป้บรรทุกน้ำ เดินเท้าเข้าดับไฟที่ลุกไหม้ พื้นที่ป่า ในหลายจุด จากการแจ้งผ่านสายด่วน 1362  เช่นที่บริเวณริมถนนสายสบปราบ – เถิน ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 640 – 647 ทั้งฝั่งขาขึ้น และขาล่อง ในพื้นที่ อ.สบปราบ และ อีกหลายในพื้นที่ป่า เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าขุนวังแปลง 1  เขตพื้นที่บ้านหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 3 ต.ทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม

     ขณะเดียวเจ้าหน้าที่ยังคงเร่งเดินเท้าเข้าดับไฟที่ลุกไหม้พื้นที่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติดอยจง ต.นายาง อ.สบปราบ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้ ( 6 ม.ค.) โดยพบไฟลุกไหม้ตามแนวสันเขา เป็น ระยะทางยาวหลายกิโลเมตรสามารถมองเห็นจากถนนในระยะไกล โดยเจ้าหน้าที่เร่งเดินเท้าขึ้นไปตามสันเขาเพื่อดับไฟ แต่การเดินเท้าเข้าดับไฟเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นทางลาดชันและบางจุดเป็นหน้าผาและเหวลึก ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินเท้าเข้าไปดับไฟได้

      และจากสถานการที่เกิดไฟไหม้พื้นที่ป่ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้วันนี้พื้นที่จังหวัดลำปางเริ่มเห็นหมอกควันปกคลุมทั่วเมืองลำปาง โดยรายงานจากกรมควบคุมมลพิษทางอากาสพบว่าวันนี้ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก  PM2.5 พุ่งเกินค่ามาตราฐานแล้วในพื้นที่ ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง วัดได้ 55 ไมโครกรัมต่อ ลูกบาศก์เมตร เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และอีกจุดตรวจวัดที่ ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ วัดได้  51 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะเดียวกันจากสถานการณ์ไฟป่า และหมอกควัน ที่เกิดขึ้นทางคณะกรรมการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดลำปาง เรียกส่วนเกี่ยวข้องเข้าประชุมเพื่อแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันในพื้นที่จังหวัดลำปางอย่างเร่งด่วนแล้ว